บทนำ ภาษีไม่ใช่ "หน้าที่" แต่คือ "เกม" ที่คุณต้องเล่นให้ชนะ

​สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว LuMoo Money Story ตอนนี้เราเดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของปี 2025 กันแล้ว (วันนี้ 22 ธ.ค. แล้วนะครับ เหลือเวลาอีกแค่ 9 วัน!) นอกจากเสียงเพลงเฉลิมฉลองและไฟประดับต้นคริสต์มาส สิ่งหนึ่งที่กำลังจะตามมาเคาะประตูบ้านมนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราในเดือนหน้า (มกราคม 2026) ก็คือ... "มหกรรมยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา" ครับ ​หลายคนเกลียดภาษีครับ มองว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก เป็นรายจ่ายที่ไม่อยากเสีย ทำงานหลังขดหลังแข็งมาทั้งปี ทำไมต้องแบ่งเงินให้สรรพากรไปฟรีๆ? แต่สำหรับผม... "ภาษีคือเกม" (Tax is a Game) ครับ และกติกาของเกมนี้แฟร์มากครับ "ใครมีความรู้มากกว่า คนนั้นจ่ายน้อยกว่า"

​รัฐบาลเขามีช่องทางลับ (Loophole) ที่ถูกกฎหมายเตรียมไว้ให้เรามากมาย เพื่อให้เราจ่ายภาษีน้อยลง หรือถึงขั้น "ได้เงินคืน" (Tax Refund) เป็นกอบเป็นกำ เอาไปสมทบทุนเที่ยวญี่ปุ่นหรือเติมพอร์ตลงทุนได้สบายๆ แต่ปีนี้กติกาเปลี่ยนไปแบบหนังคนละม้วนเลยครับ! ใครที่เคยซื้อกองทุน SSF แบบหลับหูหลับตาซื้อเหมือนปีก่อนๆ... ปีนี้คุณอาจจะน้ำตาตกใน เพราะ SSF ได้จบภารกิจลงแล้ว (หมดอายุโครงการไปแล้วเมื่อสิ้นปี 67)

คำถามคือ แล้วปีนี้เราจะใช้อะไรลดหย่อนดี? ThaiESG ที่เขาว่ามาแรง เงื่อนไขมันคือยังไงแน่? เพดานใหม่ 300,000 บาทจริงไหม? และใบกำกับภาษี Easy E-Receipt ที่เราช้อปไปเมื่อต้นปี (ม.ค. 2025) ยังเก็บไว้หรือเปล่า? ​วันนี้ผมจะมาสรุป "พิมพ์เขียวภาษี ปี 2025 (ยื่น 2026)" ให้แบบเน้นๆ เนื้อๆ ข้อมูลเป๊ะ 100% พร้อมกลยุทธ์จัดพอร์ตลดหย่อนที่จะทำให้สรรพากรต้องกุมขมับ (ด้วยความชื่นชม) ครับ!

Chapter 1 ถอดรหัสสมการความมั่งคั่ง (ที่โรงเรียนไม่เคยสอน)

​ก่อนจะไปดูว่าซื้ออะไรลดหย่อนได้บ้าง เราต้องเข้าใจ "หัวใจ" ของเกมนี้ก่อนครับ หลายคนเข้าใจผิดว่า "ลดหย่อนภาษี 100,000 บาท แปลว่าประหยัดเงินได้ 100,000 บาท" ... ผิดมหันต์ครับ! ภาษีที่บ้านเราคิดแบบ "อัตราก้าวหน้า" (Progressive Rate) ยิ่งรายได้สุทธิเยอะ ยิ่งเสียภาษีแพง (สูงสุด 35%)

​สูตรคำนวณภาษีมีแค่นี้ครับ

(รายได้ทั้งปี - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย

  1. รายได้ (Income): เงินเดือน, โบนัส, ค่าจ้าง (อันนี้เราแก้ไม่ได้ ยิ่งเยอะยิ่งดี)
  2. ค่าใช้จ่าย (Expenses): นี่คือจุดเจ็บปวดครับ กฎหมายเหมาให้มนุษย์เงินเดือนหักค่าใช้จ่ายได้ 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
    • คิดดูสิครับ ข้าวมันไก่จานละ 60 บาท ค่าเดินทาง BTS เดือนละหลายพัน แต่สรรพากรให้เราหักค่าใช้จ่ายได้แค่ 100,000 บาทต่อปี (เฉลี่ยเดือนละ 8,300 บาท) ซึ่งในชีวิตจริงมันไม่พอหรอกครับ
  3. ค่าลดหย่อน (Allowances): <-- นี่คือพระเอกขี่ม้าขาวของเรา!

​ภารกิจของเราคือ "ถมค่าลดหย่อนให้เยอะที่สุด" เพื่อกดตัวเลข "เงินได้สุทธิ" ให้ต่ำลงจนไปตกอยู่ในฐานภาษีที่ถูกที่สุด

ตารางฐานภาษีปี 2026 (ต้องรู้ไว้ประดับสมอง):

  • 0 - 150,000: ยกเว้น (0%)
  • 150,001 - 300,000: 5%
  • 300,001 - 500,000: 10%
  • 500,001 - 750,000: 15%
  • 750,001 - 1,000,000: 20%
  • 1,000,001 - 2,000,000: 25%
  • 2,000,001 - 5,000,000: 30%
  • 5,000,001 ขึ้นไป: 35%
โล่ทองคำที่สร้างจากค่าลดหย่อนภาษีช่วยปกป้องรายได้ของเรา สื่อถึงการใช้ Allowances เพื่อลดเงินได้สุทธิ

Tip รู้ไหมครับว่า ถ้าคุณมีรายได้สุทธิอยู่ในฐาน 20%... การที่คุณซื้อกองทุนลดหย่อน 10,000 บาท รัฐบาลจะช่วยออกเงินให้คุณ 2,000 บาท (คืนภาษี) เท่ากับคุณซื้อกองทุนในราคาลด 20% ทันที! นี่แหละคือกำไรตั้งแต่เริ่มซื้อ

Chapter 2 เจาะลึกค่าลดหย่อนกลุ่มพื้นฐาน (Basic & Insurance)

​ผมขอข้ามเรื่องลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาทไปเลยนะครับ (เพราะได้ทุกคนอยู่แล้ว) แต่ผมจะโฟกัสจุดที่คนส่วนใหญ่ "พลาด" และ "ใช้ไม่คุ้ม" ครับ

1. สิทธิ์ลดหย่อนพ่อแม่ (อย่าตีกันกับพี่น้อง)

  • โควตา คนละ 30,000 บาท (พ่อ 30k + แม่ 30k = 60k)
  • เงื่อนไขลับ พ่อแม่ต้องอายุ 60 ปีบริบูรณ์ และมีรายได้ทั้งปีไม่เกิน 30,000 บาท
  • จุดที่คนชอบพลาด
    1. พ่อแม่มีรายได้ ถ้าพ่อแม่มีดอกเบี้ยเงินฝาก หรือเงินปันผลหุ้นเกิน 30,000 บาทต่อปี... อดนะครับ! สรรพากรเช็คได้นะ อย่าเสี่ยง
    2. ศึกสายเลือด พี่น้องหลายคนแย่งกันใช้สิทธิ์ไม่ได้ครับ "1 คนใช้สิทธิ์พ่อได้แค่ 1 ครั้ง" ต้องตกลงกันให้ดีครับว่าปีนี้ใครฐานภาษีสูงสุด ให้คนนั้นใช้จะคุ้มกว่า แล้วค่อยเอาเงินคืนภาษีมาแบ่งกัน (Win-Win)

2. ประกันชีวิต & สุขภาพ (เกราะป้องกันที่ลดภาษีได้)

กลุ่มนี้คือการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คือได้ทั้ง "ความคุ้มครอง" เงินสำรอง/ความมั่นคง และได้ "ลดหย่อนภาษี"

  • ประกันชีวิตทั่วไป ลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุด 100,000 บาท
    • LuMoo's Advice: หลายคนชอบโดนธนาคารหลอกขาย "ประกันออมทรัพย์" (Savings) เพื่อลดหย่อนภาษี ซึ่งผลตอบแทน (IRR) มันต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก (1-2%) ถ้าคุณอยากรวย ให้ไปลงทุน S&P 500 ครับ... แต่ถ้าจะซื้อประกัน ให้ซื้อเพื่อความคุ้มครอง (Protection) เช่น ประกันตลอดชีพที่เบี้ยถูกแต่คุ้มครองสูง แล้วเอาส่วนต่างไปลงทุนดีกว่า
  • ประกันสุขภาพ ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท (รวมในก้อน 100,000 บาทแรก)
    • LuMoo's Advice ปี 2026 ค่ารักษาพยาบาลแพงหูฉี่ครับ การมีประกันสุขภาพเหมาจ่ายคือ "Must Have Item" อย่ามองแค่ลดภาษี แต่มองว่ามันคือการปกป้องเงินเก็บในบัญชี MAKE/Kept ของคุณไม่ให้หายวับไปกับตาเวลาป่วยครับ

Chapter 3 เก็บตกโครงการรัฐ (Easy E-Receipt)

ไทม์แมชชีนย้อนเวลาหาใบเสร็จ

การค้นหาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ในอีเมล สื่อถึงโครงการ Easy E-Receipt ที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้ถึง 50,000 บาท

​จำได้ไหมครับ? ช่วงต้นปีที่ผ่านมา (1 ม.ค. - 15 ก.พ. 2568) รัฐบาลมีโครงการ Easy E-Receipt ออกมา

  • สิทธิ์ ลดหย่อนได้สูงสุด 50,000 บาท
  • เงื่อนไข ต้องมี ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เท่านั้น (กระดาษใช้ไม่ได้!)
  • Action Now หยุดอ่านบทความนี้แป๊บนึง... แล้วเปิด Email หรือแอป The One / 7-Eleven / Lotus's / Central ของคุณดูครับ ค้นหาคำว่า "e-Tax"
  • ​ถ้าคุณช้อปปิ้งไปเยอะช่วงต้นปี เอกสารพวกนั้นมีค่าดั่งทองคำครับ! ยอด 50,000 บาท ถ้าคุณอยู่ฐานภาษี 20%... คุณจะได้เงินคืนถึง 10,000 บาทฟรีๆ! อย่าให้มันตกหล่นเด็ดขาด

Chapter 4 สมรภูมิกองทุนลดหย่อน (The Investment Battlefield)

พลังงานสีเขียวและน้ำเงินที่เป็นตัวแทนของกองทุน ThaiESG และ RMF สื่อถึงการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี

ถ้า Chapter ที่แล้วคือการ "ตั้งรับ" (ใช้สิทธิ์พื้นฐาน) Chapter นี้คือการ "บุก" ครับ! เพราะค่าลดหย่อนกลุ่มการลงทุนคืออาวุธหนักที่ช่วยลดภาษีได้หลักแสนบาท แต่ปีนี้กติกาเปลี่ยนไปเยอะมาก มาเช็คกันทีละตัวครับ

1. กองทุน SSF (Super Savings Fund) ปิดตำนานลูกรัก

  • สถานะปัจจุบัน 💀 R.I.P. (หมดอายุโครงการ) ขีดเส้นใต้สีแดงหนาๆ เลยนะครับ ปีนี้ (2025) คุณไม่สามารถซื้อ SSF เพื่อลดหย่อนภาษีได้แล้ว! โครงการได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2567
  • คำเตือนสำหรับคนมีของเก่า: ใครที่ซื้อ SSF ไว้ในช่วงปี 2563-2567 ห้ามขายทิ้งนะครับ! คุณต้องถือครองให้ครบ 10 ปีเต็ม (นับจากวันที่ซื้อ) ตามเงื่อนไขเดิม ไม่งั้นจะโดนสรรพากรเรียกภาษีคืนย้อนหลังพร้อมเบี้ยปรับอ่วมเลยนะครับ

2. กองทุน ThaiESG (Thailand ESG Fund)  พระเอกคนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม

เมื่อ SSF จากไป รัฐบาลก็ดัน ThaiESG ขึ้นมาเป็น "เดอะแบก" แทนครับ และข่าวดีคือ... เงื่อนไขปีนี้ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด!

  • สิทธิ์ลดหย่อน สูงสุด 30% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 300,000 บาท (เพิ่มจากเดิมที่ให้แค่ 100,000 บาท)
  • ระยะเวลาถือครอง เหลือแค่ 5 ปี (นับจากวันที่ซื้อ) ถือสั้นที่สุดในบรรดากองทุนลดหย่อนทั้งหมด!
  • นโยบายการลงทุน ลงทุนในหุ้นไทยยั่งยืน (ESG) หรือตราสารหนี้ไทยที่เน้นความยั่งยืน
  • LuMoo’s Verdict นี่คือ "Must Have Item" ของปีนี้ครับ วงเงิน 300,000 บาทนี้ แยกต่างหาก ไม่ไปนับรวมกับเพดาน 500,000 บาทของกลุ่มเกษียณด้วย แปลว่าถ้าคุณจัดเต็ม คุณลดหย่อนได้มหาศาล!

3. กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund) พี่ใหญ่สายอินเตอร์

หลายคนมองข้าม RMF เพราะเงื่อนไขที่ต้องถือยาวจนอายุ 55 ปี แต่ผมขอบอกว่า "ห้ามทิ้ง RMF เด็ดขาด"

  • สิทธิ์ลดหย่อน: 30% ของรายได้ ไม่เกิน 500,000 บาท (เมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กบข./ประกันบำนาญ)
  • จุดเด่นที่ ThaiESG ให้ไม่ได้: ThaiESG บังคับลงทุนแค่ในประเทศไทย (ซึ่งตลาดหุ้นไทย... ก็รู้นะครับว่าเป็นยังไง 😅) แต่ RMF อนุญาตให้คุณไปลงทุนหุ้นทั่วโลกได้!
  • Strategy: ใช้ RMF เป็นยานพาหนะพาเงินคุณไปลงทุนใน [S&P 500] หรือหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ครับ ยิงปืนนัดเดียวได้ 2 ต่อ คือ "ลดภาษีวันนี้" และ "มั่งคั่งในวันเกษียณ"

Chapter 5 สูตรลับจัดพอร์ต "LuMoo Combo 2026"

​เมื่อเรารู้จักอาวุธครบมือแล้ว คำถามคือ "มีเงินจำกัด จะซื้ออะไรก่อนดี?"ผมสรุปสูตรการเดินเงินมาให้แล้วครับ เรียงลำดับความคุ้มค่าตามนี้

Step 1 เต็มแม็กซ์กับ ThaiESG (โควตา 300k)

  • ทำไม? เพราะมันถือสั้นที่สุด (5 ปี) เงินไม่จมนาน และได้วงเงินแยกต่างหาก
  • เหมาะกับใคร? ทุกคน! โดยเฉพาะคนที่อยากบริหารสภาพคล่อง อีก 5 ปีก็ได้เงินคืนแล้ว
  • เลือกกองไหน? ถ้ากลัวหุ้นไทยผันผวน ให้เลือก "ThaiESG กองพันธบัตร/ตราสารหนี้" ครับ ความเสี่ยงต่ำมาก เน้นลดภาษีอย่างเดียวพอ

Step 2 เติม RMF ด้วย S&P 500 (โควตา 500k)

  • ทำไม? หลังจากเต็ม ThaiESG แล้ว ถ้ายังลดหย่อนไม่พอ ให้มาลง RMF
  • เทคนิค อย่าซื้อ RMF หุ้นไทย (เพราะเรามี ThaiESG แล้ว) ให้ซื้อ RMF ที่ลงทุนในดัชนี S&P 500 เท่านั้น เพื่อกระจายความเสี่ยงไปตลาดโลกและสร้างผลตอบแทนทบต้นระยะยาว

Step 3 ประกันบำนาญ (The Safety Net)

  • ทำไม? ถ้าคุณเป็นสาย Conservative ที่รับความเสี่ยงไม่ได้เลย หรือซื้อ RMF เต็มโควตาแล้วแต่ยังเหลือช่องว่างในก้อน 500,000 บาท
  • เทคนิค ซื้อประกันบำนาญเพื่อการันตีเงินเกษียณที่แน่นอน (ไม่ต้องลุ้นกราฟหุ้น)

บทสรุป 9 วันสุดท้าย... ชี้ชะตาเงินในกระเป๋าคุณ

นาฬิกานับถอยหลัง 9 วันสุดท้าย สื่อถึงความเร่งด่วนในการจัดการค่าลดหย่อนภาษีก่อนสิ้นปี

​เพื่อนๆ ครับ... วันนี้วันที่ 22 ธันวาคม เหลือเวลาอีกเพียง 9 วันทำการ ก่อนที่ปี 2025 จะจบลง ความผิดพลาดที่น่าเจ็บใจที่สุด ไม่ใช่การไม่มีเงินจ่ายภาษี แต่คือการ "มีสิทธิ์ได้เงินคืน แต่ดันลืมใช้สิทธิ์"

Checklist ด่วน! ก่อนเคาน์เตอร์ปิด:

  1. ​[ ] เช็คยอดรายได้ทั้งปี: จะได้รู้ฐานภาษีตัวเอง (10%, 15% หรือ 20%?)
  2. ​[ ] เช็ค e-Tax Invoice: ไปขุดอีเมลหาใบเสร็จ Easy E-Receipt ช่วงต้นปี 68 มาเตรียมไว้ (50,000 บาท)
  3. ​[ ] จัด ThaiESG: อย่ารอวันสุดท้าย (29-30 ธ.ค.) เพราะระบบธนาคารมักจะล่ม! ซื้อวันนี้เลย
  4. ​[ ] เติม RMF: ใครที่มีของเก่า อย่าลืมซื้อขั้นต่ำปีนี้ด้วย เดี๋ยวหลุดเงื่อนไข

​ภาษีเป็นเงินของเราครับ... อย่าปล่อยให้รัฐบาลเอาไปฟรีๆ ถ้าเรามีสิทธิ์ทวงคืน วางแผนดีๆ ปีหน้าคุณอาจจะได้ "เงินคืนภาษี" (Tax Refund) ก้อนโต โอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ เอาไปสมทบทุนเที่ยวญี่ปุ่น หรือเอาไปโปะหนี้บัตรเครดิต (ตามบทความ EP.4) ได้สบายๆ เลยครับ!

รีบไปจัดการเดี๋ยวนี้... แล้วเจอกันที่เส้นชัยแห่งความมั่งคั่งครับ!

LuMoo Money Story

(จบบริบูรณ์)

เก็บไว้ในรายการโปรด